5/3/53
สาระน่ารู้ก่อนลงทุนทำหอพัก
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- พฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553 09:01:11 น.
ประวีร์ พิชัยศรทัต
pravee_biz@yahoo.com
เรียนคุณประวีร์ที่นับถือ
ผมได้ยินมานานแล้วว่าการทำธุรกิจหอพักหรือธุรกิจพวกอพาร์ตเมนต์ให้เช่า เป็นช่องทางสร้างรายได้เป็นอย่างดี ถ้าแม้ว่าจะมีระยะเวลาในการคืนทุนช้ากว่าธุรกิจอื่นๆ จนบางครั้งเขาเรียกเจ้าของกิจการกันว่าเสือนอนกิน ข้อนี้ยังเป็นจริงอยู่หรือเปล่าครับ แล้วในการทำกิจการประเภทนี้จะต้องคิดอะไรบ้าง อยากทราบว่าผู้เช่ามักต้องการอะไรมากที่สุด มีสถิติข้อมูลที่ไหนบ้าง ผมสนใจในกิจการนี้ครับ หวังว่าจะไม่เป็นการรบกวนมากเกินไปครับ
ณัฐพันธ์
ตอบคุณ ณัฐพันธ์
ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ค่อยดีนัก แต่การจ้างงานต่างๆ มีต่อเนื่องโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ อย่างในกรุงเทพฯ ก็ยังมีผู้คนจากที่ต่างๆ เข้ามาหาโอกาสอย่างต่อเนื่อง จึงยังมีช่องทางในการสร้างรายได้อีกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอาหาร ขนส่ง เสื้อผ้า หรือธุรกิจบริการ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็เหมือนกันครับ ธุรกิจเกี่ยวกับทำหอพักหรืออพาร์ตเมนต์ให้เช่าก็ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่ สร้างกำไรให้กับเจ้าของธุรกิจดังกล่าวได้ดี แต่ก็ถูกต้องครับที่จะพูดว่าธุรกิจดังกล่าวจะมีระยะเวลาในการคืนทุนช้ากว่า ธุรกิจอื่นๆ
มีผู้เก็บข้อมูลเป็นสถิติไว้ก็คือบริษัท นาโน เซิร์ซ จำกัด ซึ่งได้ทำการศึกษาพฤติกรรมในการเลือกที่พักอาศัยดังกล่าวโดยศึกษากับกลุ่ม ตัวอย่างในเขตกรุงเทพฯ ในบริเวณที่มีที่พักอาศัย เช่น หอพัก อพาร์ตเมนต์ หนาแน่น และในการศึกษาครั้งนี้จำกัดเฉพาะที่พักอาศัยที่ต้องจ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือน และเป็นห้องพัก
ผลได้มาว่า ในการคิดทำธุรกิจหอพักนั้นสิ่งที่ต้องพิจารณาก็คือการจัดให้มีเฟอร์นิเจอร์ บ้างในห้อง แต่ละห้องจากความคิดเห็นของผู้บริโภคเขาต้องการให้มีอุปกรณ์พื้นฐานเพื่อ ประกอบการตัดสินใจในการเลือกที่จะเช่าพัก ทำให้ทราบว่าโดยส่วนใหญ่แล้วต้องการให้มีห้องน้ำในตัว อันดับรองลงมาคือต้องการมีเตียงนอน มีตู้เสื้อผ้า และต้องการให้มีพัดลมและเครื่องปรับอากาศ
นอกจากเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานภายในห้องที่จำเป็นแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับในห้องพักคืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะต้องมี เพราะโลกในปัจจุบันเป็นโลกของข้อมูลข่าวสารครับ ดังนั้นจึงได้มีการทำการศึกษาถึงพฤติกรรมในการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามา ใช้งานโดยสำรวจเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่ในห้องพักพบว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ กลุ่มตัวอย่างคิดว่ามีความจำเป็นมากที่สุดคือ โทรทัศน์ ร้อยละ 35 รองลงมาคือวิทยุ/สเตอริโอ ร้อยละ 24 และพัดลมตั้งพื้น ร้อยละ 15 ตามลำดับ นับว่าเป็นช่องทางการขายที่น่าสนใจ
ส่วนสิ่งที่ผู้เช่าหรือผู้บริโภคจะใช้เป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจสำหรับ การเลือกสถานที่ในการเช่านั้น ไม่ได้คำนึงถึงค่าเช่าเป็นหลักหรอกครับ เพราะพอพิจารณาลงไปแล้วก็พบว่าปัจจัยสำคัญที่ผู้เช่าเลือกคือความสะดวกในการ ดำเนินชีวิต อย่างการรับประทานอาหาร ร้อยละ 15.8 รองลงมาคือการรักษาความปลอดภัย ร้อยละ 14.7 และระยะทางการเดินทาง ร้อยละ 13.3 สำหรับค่าเช่านั้นอยู่ในลำดับที่ 4
จากตรงนี้ทำให้ทราบว่าทำเลในการสร้างหอพักหรือห้องพักนั้นสำคัญมาก มิฉะนั้นธุรกิจอาจไม่ประสบความสำเร็จก็ได้ครับสำหรับการสร้างช่องทางการ ประชาสัมพันธ์ของธุรกิจหอพักค่อนข้างจะทำได้ยาก ดังนั้นช่องทางที่ดีและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้คือการหาทางทำประชาสัมพันธ์ ในพื้นที่ เพราะกลุ่มตัวอย่างจะได้ทราบว่าหอพักอยู่ในย่านที่ตนเองต้องการจะพัก รองลงมาคือการสอบถามจากเพื่อนหรือคนรู้จัก ร้อยละ 24.0 ในขณะที่ข้อมูลผานทางเว็บไซต์เกี่ยวกับหอพักมีผู้ใช้เพียงร้อยละ 4.5 เท่านั้นเอง
และจากการสอบถามกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับการวางแผนในเรื่องที่อยู่อาศัย เพื่อต้องการประเมินสถานการณ์ความต้องการพักอาศัยในอนาคต ก็ได้ทราบครับว่ากลุ่มผู้เช่าหอพักอยู่นั้นมีความต้องการซื้อบ้านและคอนโดฯ สูงถึงร้อยละ 47.0 ส่วนอีกร้อยละ 20.0 ต้องการย้ายที่พักตามสถานที่ทำงาน แต่ยังคงอยู่หอพักเช่นเดิม จากคำตอบที่ได้นี้ถือว่าเป็นข่าที่ดี อนาคตยังสดใสสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นบ้านหรือคอนโดฯ เพราะกลุ่มคนที่ต้องการมีที่พักอาศัยเป็นของตนเองก็มีเกือบครึ่งจากกลุ่ม ตัวอย่างทั้งหมดครับ
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ คอลัมน์: สารพันปัญหาเงินทอง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น